นางสุภาพร สุขมาก รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ นำทีมเดินหน้าขับเคลื่อนกิจกรรมยกระดับความร่วมมือกับแพลตฟอร์มพันธมิตรและส่งเสริมการค้าออนไลน์ในประเทศ ภายใต้โครงการ “TOPTHAI x Amazon” ณ One Chase Manhattan Plaza (28 Liberty Street)
นครนิวยอร์ก โดยผนึกกำลังกับแพลตฟอร์มพันธมิตร Amazon ตั้งเป้าสร้างมูลค่าการสั่งซื้อสินค้าภายใน 1 ปี
ไม่ต่ำกว่า 60 ล้านบาท และมีแผนบุกตลาดอีคอมเมิร์ซในสหรัฐฯ 2 ปี สร้างมูลค่าการค้าไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท
นางสุภาพร เปิดเผยว่า การผลักดันผู้ประกอบการ SMEs ไทยสู่ตลาดออนไลน์ต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดสหรัฐฯ ถือเป็นหนึ่งในโครงการ Flagship ที่กรมฯ ให้ความสำคัญ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการรายใหม่สามารถขยายตลาดได้อย่างเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ ในช่วงปลายปี 2567 DITP ได้ลงนามบันทึกความร่วมมือ (MOU) กับ Amazon Global Selling ผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม Amazon ในสหรัฐฯ เพื่อผลักดันสินค้าไทยสู่ตลาดออนไลน์ระดับโลก และได้ดำเนินการต่อเนื่องมาอย่างจริงจัง
“สำหรับปี 2568 กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) มุ่งผลักดันการเจาะตลาดออนไลน์สหรัฐฯ อย่างจริงจัง โดยร่วมมือกับสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (สคต.) ณ นครลอสแอนเจลิส และนครนิวยอร์ก จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายออนไลน์และประชาสัมพันธ์สินค้าไทยอย่างต่อเนื่อง” นางสุภาพร สุขมาก รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าว
ซึ่งปีนี้กรมฯ โดยสำนักตลาดพาณิชย์ดิจิทัล และสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ
นครลอสแอนเจลิส จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายออนไลน์ในตลาดสหรัฐฯ ภายใต้โครงการ TOPTHAI x Amazon โดยมีสินค้าศักยภาพของไทยเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวจำนวน 20 แบรนด์ กว่า 200 รายการ ผ่านร้าน TOPTHAI บนแพลตฟอร์ม Amazon และสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครนิวยอร์ก จัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์และออกคูหาจัดแสดงสินค้าไทยกว่า 20 แบรนด์ 44 รายการ ครอบคลุมกลุ่มสินค้าผลไม้อบแห้ง อาหารสำเร็จรูป เครื่องดื่ม อุปกรณ์และเสื้อกีฬา ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพ ช่องปาก และของเล่นเสริมพัฒนาการเด็ก พร้อมแจกตัวอย่างสินค้า (Free sample) และประชาสัมพันธ์ผ่านเว็บไซต์ Thaitrade.com ภายในงาน Taste of Thai SELECT เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2568 ณ นครนิวยอร์ก ซึ่งได้รับความสนใจจากชาวอเมริกันอย่างล้นหลาม คาดว่าจะผลักดันให้ผู้ประกอบการไทยเข้าสู่ตลาดออนไลน์ผ่าน Amazon.com ได้เพิ่มขึ้นกว่า 200 ราย และสร้างยอดขายรวมกว่า 60 ล้านบาท ภายใน 1 ปี และมีแผนดำเนินกิจกรรมอย่างต่อเนื่องในปี 2569
โดยในปี 2569 กรมฯ มีแผนขยายความร่วมมือกับพันธมิตรแพลตฟอร์มรายใหม่ในนครนิวยอร์ก
ด้านเสื้อผ้า แฟชั่น และไลฟ์สไตล์ ซึ่งขึ้นชื่อเป็นมหานครด้านแฟชั่นที่สำคัญ เพื่อบุกตลาดแฟชั่นออนไลน์ในสหรัฐฯ พร้อมทั้งได้หารือกับผู้ให้บริการแพลตฟอร์มร้านอาหารและแฟลตฟอร์มข้อมูลสินค้าในนิวยอร์กเพื่อจะได้ต่อยอดโครงการร้าน TOPTHAI บนแฟลตฟอร์มร้านอาหารเพื่อโปรโมทสินค้าอาหารไทยและแนะนำร้านค้า Thai SELECT ควบคู่ไปกับการขยายโครงการ E-commerce ที่เคยดำเนินการร่วมกับซุปเปอร์มาร์เก็ต H Mart ชั้นนำในสหรัฐฯ โดยมีแผนจัดกิจกรรม Offline to Online ภายใต้โครงการ TOPTHAI ในช่วงกลางปี 2569 ซึ่งจะช่วยเพิ่มช่องทางและโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยในอุตสาหกรรมใหม่ๆ สามารถเจาะตลาดสหรัฐฯ ได้มากยิ่งขึ้น
ปัจจุบัน DITP มีความร่วมมือกับพันธมิตรอีคอมเมิร์ซชั้นนำกว่า 10 แพลตฟอร์ม ใน 11 ประเทศทั่วโลก อาทิ Tmall, Bigbasket, Klangthai, PcHome, Shopee, Lazada, Rakuten, LetsTango และ Amazon
เพื่อเปิดตลาดต่างประเทศให้กับผู้ประกอบการ SMEs ไทย ภายใต้โครงการ “TOPTHAI” หรือ “ร้านค้าปลีกออนไลน์ของกรมฯ” ซึ่งนับเป็นก้าวใหม่ที่ช่วยลดอุปสรรคการส่งออก และเพิ่มโอกาสการเข้าถึงผู้บริโภค
ในตลาดโลก โดยปัจจุบันโครงการดำเนินเข้าสู่ปีที่ 5 มีแบรนด์ไทยเข้าร่วมกว่า 2,400 แบรนด์ สร้างมูลค่ารวมกว่า 800 ล้านบาท และยังมีผู้ประกอบการสมัครเข้าร่วมอย่างต่อเนื่อง กรมฯ จึงมีแผนขยายความร่วมมือกับแพลตฟอร์มชั้นนำไปยังตลาดใหม่ในสหราชอาณาจักรและยุโรปในอนาคต
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการที่สนใจขยายโอกาสส่งออกผ่านช่องทางออนไลน์ สามารถติดตามข้อมูลกิจกรรมได้ที่ Facebook : TopThai by DITP หรือสมัครเข้าร่วมโครงการ TOPTHAI ได้ที่ www.thaitrade.com/topthai หรือโทร 1169